โบราณสถานพิเศษแห่งชาติ วิหารเดิ๋วอาน

(VOVWORLD) - วิหารอานซ้า หรือมีอีกชื่อคือเดิ๋วอาน อยู่ในตำบลอาเวียน อำเภอเตียนลือ จังหวัดฮึงเอียน เป็นที่รู้จักทั่วไปว่ามีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเต๋าที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในเวียดนาม ดังนั้น จึงเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและเป็นนิมิตหมายยืนยันการพัฒนาของลัทธิเต๋าตั้งแต่เริ่มแรกในท้องถิ่นนี้ โดยวิหารอานซ้าได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานพิเศษแห่งชาติเมื่อปี2020
โบราณสถานพิเศษแห่งชาติ วิหารเดิ๋วอาน - ảnh 1ภาพด้านหน้าวิหาร (laodong.vn)

วิหารอานซ้าได้ก่อสร้างมานานเป็นร้อยปีเพื่อบูชาเง็กเซียนฮ่องเต้ เทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์และบรรดาเทพในความเลื่อมใสของลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณูปการในการบุกเบิกพัฒนา ขับไล่สัตว์ร้าย สอนชาวบ้านรู้จักทำไร่ทำนา สร้างบ้านสร้างชุมชน สร้างศาลาประจำหมู่บ้าน"Thụy Ứng Quán"เพื่อเป็นสถานที่จัดงานเซ่นไหว้ขอพรให้ชีวิตความเป็นอยู่มีความสงบสุข นายเจิ่นถวาย เจ้าหน้าที่คณะกรรมการดูแลโบราณสถานวิหารอานซ้า เผยว่า  "ในอดีต วิหารแห่งนี้เป็นแค่ศาลาเล็กๆสร้างด้วยไม้ไผ่และหลังคามุงจากที่เรียกกันว่าThy ng Quán โดยคนในท้องถิ่นและคนจากหลายพื้นที่ได้มาเซ่นไหว้สักการะขอพรจำนวนมาก ผ่านระยะเวลาต่างๆตั้งแต่ยุคราชวงศ์ดิงห์ ลี้ เจิ่นและ ราชวงศ์เล ก็มีการบูรณะหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน วิหารแห่งนี้มีวิหารเถือง วิหารหะ วิหารกวานย้าม ศาลเจ้าโก " 

สิ่งที่เป็นจุดเด่นพิเศษของวิหารอานซ้าแห่งนี้คืออาคารที่เป็นวิหารหลังและโองม้วง ได้สร้างขึ้นด้วยหินเขียว ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะที่หายากในบรรดาโบราณไม่กี่แห่งในภาคเหนือที่ยังสามารถอนุรักษ์ไว้ได้สมบูรณ์ รวมทั้งลวดลายงานแกะสลักบนหินและบนโครงสร้างสถาปัตยกรรมของวิหารแห่งนี่ล้วนได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียดโดยช่างแกะสลักหินฝีมือเยี่ยม ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่สุขุมศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ศาสนสถานแห่งนี้ "ส่วนอาคารด้านหน้าของวิหารใช้ไม้แดงเป็นวัสดุหลักในการสร้าง แต่อาคารด้านในใช้หินเขียวทั้งหมด มีการสลักลายสิงโต มังกร กิเลน เป็นต้น สำหรับอาคารด้านในปกติจะไม่ให้คนเข้าไปทำพิธีแต่ที่นี้มีประตูสองข้างเปิดให้เข้าได้ ด้านในมีการตั้งหิ้งบูชาที่สร้างด้วยดินเผา ลายพื้นรอบๆเป็นดอกบัวที่เป็นสัญลักษณ์ของการบูชาพระพุทธเจ้า" 

โบราณสถานพิเศษแห่งชาติ วิหารเดิ๋วอาน - ảnh 2ลวดลายงานแกะสลักของวิหารแห่งนี่ล้วนได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียดโดยช่างแกะสลักหินฝีมือเยี่ยม

คุณค่าพิเศษทางศิลปะของวิหาร อานซ้า ยังสะท้อนให้เห็นจากโบราณวัตถุและสมบัติแห่งชาติที่หายากและมีเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงเก็บรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยสมบัติแห่งชาติมี 2รายการ ได้แก่ แท่นบูชาดินเผา สร้างในช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติในปี 2022 กับเจดีย์ดินเผาสร้างในช่วงศตวรรษที่ 16 - 17 ได้รับการรับรองเป็นสมบัติแห่งชาติในปี 2021 นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น แท่นรูปปั้นดินเผา 2 แท่นที่มีการออกแบบแนววิจิตรศิลป์ของศตวรรษที่ 16-17 ระฆังหินในยุคหลังราชวงศ์เลช่วงปี1676 ระฆังทองสัมฤทธิ์รัชกาล แก๋งฮึง ที่ 34 ปี 1773  รูปปั้นบูชาที่ออกแนวศิลปะในช่วงศตวรรษที่ 18 เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า เป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าสำหรับนักวิจัยในการศึกษาเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุและประเพณีการบูชาเทพเจ้าทั้งหลาย ศาสตราจารย์ เจิ่นเลิมเบี่ยน นักวิจัยด้านวัฒนธรรมเผยว่า เจดีย์ดินเผาแห่งนี้แตกต่างกับเจดีย์พุทธ เช่น เจดีย์พุทธมักจะสร้างเป็นเลขคี่ แต่เจดีย์นี้มี 10 ชั้น บนเจดีย์มีการสลักลวดลายที่สะท้อนความปรารถนาของมนุษย์ที่มีการผสมผสานระหว่างกระแสวัฒนธรรมความเชื่อพื้นบ้านและความปรารถนาเกี่ยวกับแนวคิดทางการเกษตร"ลวดลายและการตกแต่งต่างๆบนเจดีย์แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงจิตใจของชาวเวียดนาม สะท้อนความปรารถนาของผู้คนที่ต้องการส่งถึงผู้ทรงอำนาจเบื้องบนเพื่อประทานพรให้มวลมนุษย์"          

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคุณค่าของวิหารอานซ้า ผู้บริหารจังหวัดได้ชี้นำให้หน่วยงานต่างๆและทางการท้องถิ่นผลักดันงานด้านการบริหารดูแลมรดกและโบราณสถานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาและส่งเสริมคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมและโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นให้ควบคู่กับการพัฒนาการท่องเที่ยวในช่วงปี 2020 - 2025 วิสัยทัศน์ถึงปี2030 นายเจิ่นก๊วกวัน  ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฮึงเอียนกล่าวว่า"ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อค้ำประกันการดำเนินโครงการอนุรักษ์ ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของโบราณสถานต่างๆให้ควบคู่กับการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเน้นการสร้างเสริมระบบโบราณสถานในท้องถิ่นให้มีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะโบราณสถานพิเศษแห่งชาติ วิหารอานซ้านี้ เพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นระดับจังหวัด "

วิหารอานซ้าพร้อมโบราณวัตถุที่มีค่าต่างๆได้กลายเป็นหลักฐานอันล้ำค่าของประวัติศาสตร์การพัฒนาจังหวัดฮึงเอียน โดยร่องรอยต่างๆของวิหารได้สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์และศาสนา แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังสืนสานต่อไป./.            

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด