โกนด๋าว เกาะไข่มุขทางทิศใต้ของเวียดนาม

(VOVWORLD) - อำเภอเกาะโกนด๋าวหรือที่คนไทยอาจค้นเคยกับชื่อเกาะกงดอสังกัดจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ห่างจากนครโฮจิมินห์ประมาณ 230 กม. รวมเกาะน้อยใหญ่ประมาณ  16 เกาะ โดยเกาะ โกนเซิน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ท้องถิ่นแห่งนี้มีความผูกพันธ์กับประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์แห่งการต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของประชาชาติในอดีตและทุกวันนี้กำลังเดินหน้าพัฒนาเปลี่ยนโฉมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง
โกนด๋าว เกาะไข่มุขทางทิศใต้ของเวียดนาม - ảnh 1อำเภอเกาะโกนด๋าวหรือที่คนไทยอาจค้นเคยกับชื่อเกาะกงดอสังกัดจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ห่างจากนครโฮจิมินห์ประมาณ 230 กม. 
 
 หมู่เกาะโกนด๋าวเป็นที่รู้จักกันทั่วไปคือสวรรค์แห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาจากที่เคยเป็น"นรกบนดิน"ในยุคสงคราม เป็นที่คุมขังนักปฏิวัติเวียดนามที่ถูกจับกุมในกระบวนการต่อสู่เพื่อต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นและจักรวรรดินิยมในอดีต ปัจจุบัน โกนด๋าวได้อยู่ในแผนการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเลและประวัติศาสตร์วัฒนธรรมทางจิตวิญญาณที่โดดเด่นระดับภูมิภาคและโลก โดยจากการวางผังพัฒนาถึงปี 2030 ที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามอนุมัติ ทางการท้องถิ่นกำลังปฏิบัติเป้าหมายต่างๆตามแนวทางอนุรักษ์และเสริมสร้างพัฒนาแห่งโบราณสถานประวัติศาสตร์พิเศษในพื้นที่ควบคู่กับการพัฒนาสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงามโดดเด่นของเกาะที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น"ไข่มุก"กลางทะเลตะวันออกด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามน่าประทับใจยิ่ง ด้วยชายหาดที่แสนโรเเมนติก ด้วยแนวปะการังและพื้นที่ป่าเขียวกว้างใหญ่ ตลอดจนมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์เชิงจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์สามแห่งที่ผู้คนต้องไม่พลาดเมื่อเยือนเกาะโกนด๋าวคือ เรือนจำโกนด๋าว หลุมฝังศพวีรสตรีหวอถิเสาและศาลเจ้านางฟีเอี๊ยน
โกนด๋าว เกาะไข่มุขทางทิศใต้ของเวียดนาม - ảnh 2หลุมฝังศพวีรสตรีหวอถิเสา

"ฉันมาเที่ยวโกนด๋าวหลายครั้งแล้วแต่ยังรู้สึกชื่นชอบและประทับใจในทุกครั้งที่ได้มา โดยชอบบรรยากาศของทะเล ชายหาดและสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่บริสุทธิ์ปลอดโปร่งมาก"  

"เรารู้สึกภูมิใจและสำนึกในส่วนอุทิศของเหล่าวีรชนที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อพิทักษ์รักษาชาติให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสันติในทุกวันนี้ และการมาเที่ยวเกาะโกนด๋าวก็เพื่อจุดธูปแสดงความสำนึกต่อบรรดาวีรชนที่ได้สละชีวิต ณ ที่นี่"

"ฉันเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งรู้สึกซาบซึ้งในมากๆเมื่อได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวีรชนที่พลีชีพเพื่อชาติบนเกาะแห่งนี้ ทำให้การเดินทางเที่ยวโกนด๋าวนั้นยิ่งมีความหมายมากขึ้น"

จนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2023 อ.เกาะโกนด๋าว ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 5 แสนคน เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่กว่า 1 หมื่น 3 พันคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 84 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจุบันทางจังหวัดกำลังผลักดันการเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น การจัดทัวร์ปิกนิกบนเกาะเล็กๆของอุทยานแห่งชาติโกนด๋าว เช่น เกาะ Bay Canh เกาะ Tai เกาะ Tre เกาะไข่  เกาะ Hon Cau ดำน้ำชมปะการัง เที่ยวชมระบบพืชพันธุ์และสัตว์หายากในอุทยานแห่งชาติ ตลอดจนศึกษาเกี่ยวกับโบราณวัตถุของยุคหินใหม่ ยุคสำริดตอนต้น (ประมาณ 3พันปีที่แล้ว) และร่องรอยที่ฝังศพของคนยุควัฒนธรรม Sa Huynh (ประมาณ 2พันปีที่แล้ว)
โกนด๋าว เกาะไข่มุขทางทิศใต้ของเวียดนาม - ảnh 3นักท่องเที่ยวฟังคำบรรยายที่เรือนจำโกนด๋าว

นอกจากนี้ โกนด๋าวยังมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจทางทะเลด้วยการเป็นพื้นที่ทำการประมงขนาดใหญ่ สะดวกสำหรับการบริการด้านโลจิสติกส์และสร้างโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อการส่งออก นาย เลวันฟอง เลขาธิการพรรคประจำอำเภอ ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอเกาะโกนด๋าวเผยว่า :"ทางการท้องถิ่นตระหนักถึงงานด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมการบูรณะเสริมสร้างคุณค่าวัฒนธรรมของบรรพบุรุษให้สืบสานต่อไป ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบทางการเกษตรและการท่องเที่ยวแต่ต้องมีส่วนร่วมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมด้วย"

จากการปฏิบัติแผนพัฒนาโกนด๋าวถึงปี 2030 ที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติ รัฐบาลและทางการจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่ากำลังพยายามสร้างสรรค์อำเภอเกาะโกนด๋าวให้พัฒนาอย่างกลมกลืนระหว่างเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์โบราณสถานวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน มีแผนการยกระดับสนามบิน ก่อสร้างท่าเรือพาณิชย์สำหรับรองรับเรือขนาด 2,000 GRT ปรับปรุงท่าเทียบเรือท่องเที่ยวตามเกาะเล็กๆ โดยเฉพาะท่าเทียบเรือ  Bãi Ông Đụng เพื่อสามารถให้บริการเรือขนาด 50,000GRT-70,000GRT ทั้งนี้ จากการเป็นหนึ่งใน 21 แหล่งท่องเที่ยวแห่งชาติของเวียดนาม เกาะโกนด๋าวถือเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนและค้นคว้าธรรมชาติที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเมื่อปี 2011 ได้รับการโหวตจากนิตยสารการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก Lonely Planet ให้เป็น 1 ใน 10 เกาะท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความมหัศจรรย์และดีที่สุดในโลก./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด