นักประวัติศาสตร์กัมพูชายกย่องชัยชนะเดียนเบียนฟู

(VOVWORLD) - ในเดือนพฤษภาคมแห่งประวัติศาสตร์นี้ ประชาชนทั่วประเทศเวียดนามต่างมุ่งใจสู่เมืองเดียนเบียน  – ดินแดนแห่งชัยชนะของยุทธการเดียนเบียนฟูที่โด่งดังไปทั่วโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู 7 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาได้สัมภาษณ์ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ Vong So Theara หัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์กัมพูชาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยภูมินทร์พนมเปญ เกี่ยวกับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าวของเวียดนาม
 
 
นักประวัติศาสตร์กัมพูชายกย่องชัยชนะเดียนเบียนฟู - ảnh 1ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ Vong So Theara

ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ Vong So Theara เผยว่า ชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1954 นั้น ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส 1945-1954 ของเวียดนาม กองทัพประชาชนเวียดนาม นำโดยพลเอก หวอเหงียนยาป สามารถบังคับให้ฝรั่งเศสต้องนั่งเจรจาเพื่อลงนามข้อตกลงเจนีวา ยุติสงครามและฟื้นฟูสันติภาพในภูมิภาคอินโดจีน

“ความล้มเหลวของฝรั่งเศสในสมรภูมิเดียนเบียนฟูมีความหมายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ชัยชนะเดียนเบียนฟูถือเป็นการชูธงแห่งชัยชนะของเวียดนามและประชาชนในอินโดจีน”

อย่างไรก็ดี นาย Vong So Theara ได้เผยต่อไปว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ชัยชนะเดียนเบียนฟูยังไม่สามารถนำสันติภาพมาสู่ภูมิภาคอินโดจีนได้อย่างสมบูรณ์ โดยเวียดนามยังคงถูกแบ่งออกเป็นภาคเหนือและภาคใต้ด้วยเส้นขนานที่ 17 ถึงกระนั้นการสู้รบที่เดียนเบียนฟูก็ถือเป็นความพ่ายแพ้อย่างหนักของกองทัพฝรั่งเศสที่นำไปสู่การยุติการปกครองของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสในสามชาติอินโดจีน เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการล่มสลายของลัทธิล่าอาณานิคมแบบเก่าในทั่วโลกและเปิดหน้าใหม่ให้แก่ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จากชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้ พวกเรายังสามารถถอดบทเรียนอันทรงคุณค่ามากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับความสามัคคีระหว่างสามชาติ กัมพูชา-ลาว-เวียดนาม สำหรับศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ Vong So Theara ความสามัคคีของทั้งสามประเทศนั้นเปรียบเหมือนกิ่งไม้หลาย ๆ อันที่เมื่อรวมกันเป็นมัดใหญ่ก็จะไม่มีใครสามารถหักได้

“ทั้งสามประเทศต่างมีความสัมพันธ์มที่ใกล้ชิดกัน โดยพวกเราสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้กับศัตรู เมื่อทั้งสามประเทศได้ก่อตั้งกองกำลังปฏิวัติเพื่อต่อสู้กับแอกปกครองของลัทธิอาณานิคม ก็นำไปสู่ผลสำเร็จต่าง ๆ โดยเฉพาะหลังการพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสในเดียนเบียนฟูที่นำไปสู่การลงนามข้อตกลงเจนีวา ซึ่งฝรั่งเศสต้องรับรองเอกราชของทั้งเวียดนาม ลาว และกัมพูชา อย่างเป็นทางการ”

ในระดับสากล ยุทธการเดียนเบียนฟูมีความหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างมากต่อประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่กองทัพของประเทศอาณานิคมในภูมิภาคเอเชียสามารถเอาชนะกองทัพเจ้าอาณานิคมที่เป็นมหาอำนาจของยุโรปที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งความเชื่อมั่นที่ได้รับจากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้กลุ่มประเทศอินโดจีนและประเทศอาณานิคมอื่นๆ ลุกขึ้นสู้ และได้รับการรับรองเอกราชจากฝรั่งเศสในที่สุด ยุติลัทธิล่าอาณานิคมแบบเก่าทั่วโลก

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ Vong So Theara ได้ประเมินให้ชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1954 เป็นชัยชนะอันรุ่งโรจน์ เป็นห้วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ของขบวนการปลดปล่อยประชาชาติต่าง ๆ ในทั่วโลก อีกทั้งแสดงความหวังว่า ประชาชนสามประเทศ ลาว-กัมพูชา-เวียดนามจะเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีงามนี้ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืนยาวนาน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด