ประธานประเทศ หวอวันเถืองและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเห็นพ้องกันว่า ควรยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่โดยเร็ว

(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของประธานประเทศ หวอวันเถือง นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 11-13 มกราคม โดยเช้าวันที่ 12มกราคม ณ ทำเนียบประธานประเทศ ประธานประเทศหวอวันเถือง ได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
ประธานประเทศ หวอวันเถืองและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเห็นพ้องกันว่า ควรยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่โดยเร็ว - ảnh 1ภาพการเจรจา

ในการเจรจาหลังพิธีต้อนรับ ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคี จัดทำแผนการปฏิบัติระยะปี 2024-2028 โดยเร็ว ควบคู่ไปกับการขยายความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง ความร่วมมือทางทะเล การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การเกษตร สัตว์น้ำ การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ การศึกษาและฝึกอบรม วัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว การคลังอัจฉริยะ การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน การปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล นวัตกรรม ระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรีรถยนต์ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้อยู่ที่ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามแนวทางที่สมดุล ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้แสดงความประสงค์ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะอำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามในอินโดนีเซียในการปรับตัวเข้ากับสังคมและเสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือ IUU

ส่วนสำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องประสานงานกับประเทศอาเซียนในการสนับสนุนลาวในการปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนปี 2024 ยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของสันติภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัย ความมั่นคงและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ธำรงความสามัคคีและจุดยืนของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก ปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและผลักดันการจัดทำร่างซีโอซีอย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมายสากล

หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การประชาสัมพันธ์และการประมง

ประธานประเทศ หวอวันเถืองและประธานาธิบดีอินโดนีเซียเห็นพ้องกันว่า ควรยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่โดยเร็ว - ảnh 2ภาพการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมหลังการเจรจา ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้ย้ำว่า

“ด้วยสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและผลความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ในตลอดเกือบ 70 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาเพื่อมุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อนำผลประโยชน์มาให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อความสามัคคีของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค”

ส่วนนาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้ชี้ชัดว่า “ในด้านการลงทุน ผมแสดงความยินดีต่อการขยายการลงทุนของบริษัทใหญ่ 2 แห่งของอินโดนีเซียในเวียดนาม ซึ่งแน่นอนว่า บริษัทเหล่านี้ได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุดในเวียดนามและผมขอเชิญชวนบริษัทเวียดนามให้ขยายการลงทุนในอินโดนีเซีย ส่วนในด้านความมั่นคงด้านอาหาร พวกเราได้เห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและสัตว์น้ำ ซึ่งการลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการประมงเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ”

ในค่ำวันที่ 12 มกราคม ประธานประเทศหวอวันเถืองได้จัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแด่นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียและคณะฯ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด