ทำให้มิตรภาพอันยิ่งใหญ่และความสามัคคีพิเศษระหว่างเวียดนามกับลาวมีความลึกซึ้งมากขึ้น

(VOVWORLD) - วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการประชุมระดับสูงระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับพรรคประชาชนปฏิวัติลาวภายใต้อำนวยการของท่าน เหงียนฟู่จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและท่าน ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานประเทศลาว 
ทำให้มิตรภาพอันยิ่งใหญ่และความสามัคคีพิเศษระหว่างเวียดนามกับลาวมีความลึกซึ้งมากขึ้น - ảnh 1ท่าน เหงียนฟู่จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและท่าน ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานประเทศลาว (VNA)

นี่คือกิจกรรมที่สำคัญที่มีส่วนร่วมผลักดันและทำให้สัมพันธไมตรีที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนเวียดนาม-ลาวมีความลึกซึ้งมากขึ้น

ในการประชุม ท่าน เหงียนฟู่จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและท่าน ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานประเทศลาว ได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของแต่ละพรรคและแต่ละประเทศ รวมทั้ง งานด้านการสร้างสรรค์องค์กรพรรค การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งในระดับภูมิภาคและโลก และปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ ประเมินผลความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างทั้งสองพรรคและสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางที่สำคัญของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาวในเวลาที่จะถึง อีกทั้ง ยืนยันว่า ความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาวเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นสิ่งที่จำเป็นและพลังที่เข้มแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งสองพรรคและสองประเทศที่ต้องได้รับการส่งเสริมและสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลังในการประชุม นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนาย สมไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว ได้เห็นพ้องกันว่า ในสภาวการณ์ของสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งสองพรรคและสองประเทศต้องส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงาม ส่งเสริมความสามัคคี ประสานงานอย่างใกล้ชิด สนับสนุนกันและนำความสัมพันธ์ทางการเมืองเข้าสู่ส่วนลึก เป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพรรคและสองประเทศ ส่งเสริมเสาหลักของความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคงและการต่างประเทศ สร้างก้าวกระโดดในความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนบนพื้นฐานของการส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด